ประกาศสำนักงาน เรื่องรับสมัครสอบแข่งขันบุคคลเพื่อเป็นลูกจ้างกลุ่มงานบริการ(ขับรถยนต์) ปฏิบัติงานสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 2
ข่าวประชาสัมพันธ์
แจ้งแบบใบทะเบียนองค์กรเกษตรกร (กฟก.5)
แจ้งให้สำนักงานสาขาจังหวัด ดำเนินการออกใบทะเบียนองค์กรเกษตรกร (กฟก.5) สำหรับมอบให้องค์กรเกษตรกร ตามแบบใบทะเบียนองค์กรเกษตรกร (กฟก.5) และตัวอย่างการออกใบทะเบียน ตามเอกสารที่แนบ
rn
rn
rn
ขอเชิญร่วมงาน บุญแจกข้าว เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แด่ คุณรณชิต ทุ่มโมง
ขอเชิญร่วมงาน “บุญแจกข้าว” เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แด่ คุณรณชิต ทุ่มโมง
rn
ณ ศูนย์สาธิตวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายสมัชชาเกษตรกรรายย่อย เขตพนมดงรัก ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ
rn
ในวันที่ 5-7 มกราคม 2556
การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานและลูกจ้างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานและลูกจ้างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
rn
ดาวน์โหลดรายละเอียดและบัญชีรายชื่อผู้จะเป็นสมาชิก
rn
rn
จังหวัดระยอง งบกู้ยืมในโครงการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ของกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา งบประมาณ 160,000 บาท
จังหวัดระยอง
rn
งบกู้ยืมในโครงการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
rn
ของกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา
rn
งบประมาณ 160,000 บาท
rnrn
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดระยองได้รับอนุมัติแผนและโครงการฯ ในงบกู้ยืมจำนวน 160,000 บาท ชื่อโครงการ“ทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ” ขององค์กรเกษตรกร กลุ่มอำเภอแกลงบูรพาจำนวน 1 โครงการ ทางองค์กรเกษตรกรจัดประชุมสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีนายธนสรรค์ สีสมรักษาการหัวหน้าสำนักงานสาขาจังหวัดระยอง ได้แนะนำวิธีการและขั้นตอนการปฏิบัติในการดำเนินงานในโครงการให้แก่เกษตรกรสมาชิกรับทราบ ณ ที่ทำการขององค์กรเกษตรกรดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 และจัดทำสัญญากู้ยืมเงินเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา
rn
rnrn
เจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูฯ สาขาจังหวัดระยองร่วมจัดทำสัญญากู้ยืมเงินในโครงการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โดยมีนายดอกไม้ ใจหาญประธานองค์กรเกษตรกรกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา และคณะกรรมการร่วมลงนาม
rnrn
นายทองอบ ถนอมวงศ์ รองประธานกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาจังหวัดระยองได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจดูลานหมักปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งเป็นบริเวณบ้านของนายวิรัตน์ ทองหล่อ เกษตรกรสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการ ณ ต.พังราด อ.แกลง จ.ระยอง โดยเกษตรกรสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เป็นชาวสวนชาวไร่ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่หมักได้จะนำมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว
rn
rn
นายธนสรรค์ สีสม รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดระยองได้มอบเช็คเงินกู้ยืมงวดที่ 1 ให้แก่นายดอกไม้ ใจหาญ ประธานองค์กรเกษตรกรกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา
กฟก.มุกดาหาร
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดมุกดาหาร
rn
ที่ตั้ง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร (บริเวณโรงเรียนมุกดาลัย) ถ.พิทักษ์พนมเขต อ.เมือง จ.มุกดาหาร ๔๙๐๐๐
rn
rn
**** สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ จ.มุกดาหาร ยังคงเดินหน้าเชิงรุก ปีงูใหญ่ 2555 ต่อไป ในการชำระหนี้แทนเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องเกษตร ล่าสุดได้อนุมัติเพิ่มเติม จำนวน 23 ราย เป็นเงินกว่า 1,407,680.96 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนเจ็ดพันหกร้อยแปดสิบบาทเก้าสิบหกสตางค์) ประกอบ 2 สหกรณ์ ****
rn
rn
นายสานิต เชิดโคกศรี หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดมุกดาหาร ยังให้ความสำคัญในการชำระหนี้แทนเกษตรกร เพื่อต้องการให้พี่น้องเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในด้านงานจัดการหนี้ ได้มีการชำระหนี้แทนเกษตรกรเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ จากที่ผ่านมา ล่าสุดได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร จำนวน 23 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,407,680.96 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนเจ็ดพันหกร้อยแปดสิบบาทเก้าสิบหกสตางค์) แยกเป็น
rn
– หนี้สหกรณ์การเกษตรนิคมพัฒนา จำกัด 14 ราย เป็นจำนวนเงิน 622,423.04บาท
rn
(หกแสนสองหมื่นสองพันสี่ร้อยยี่สิบสามบาทสี่สตางค์)
rn
เช็คลงวันที่ 30 เมษายน 2555
rn
– หนี้สหกรณ์นิคมดอนตาล จำกัด 9 ราย เป็นจำนวนเงิน 785,257.92 บาท
rn
(เจ็ดแสนแปดหมื่นห้าพันสองร้อยห้าสิบเจ็ดบาทเก้าสิบสองสตางค์)
rn
เช็คลงวันที่ 30 เมษายน 2555
rn
ซึ่งสมาชิกเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้แทน กล่าวถึงความรู้สึกว่า ดีใจมากที่กองทุนฟื้นฟูฯ ได้เข้ามาช่วยเหลือ เพราะเป็นหนี้ที่ค้างชำระกับเจ้าหนี้มานานแล้ว และกังวลเรื่องดอกเบี้ยด้วย ดังนั้น เจ้าตัวพร้อมที่จะปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ โดยการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูฯ เพื่อปรับกระบวนทัศน์ /ปรับแนวคิดการดำเนินชีวิตแบบใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสำนักงานสาขา จ.มุกดาหาร มีแผนฟื้นฟูฯไว้รองรับอยู่แล้ว ต่อไป
rn
rn
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ได้ยื่นเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการรับชำระหนี้แทน
มาเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของสาขาจังหวัด ส่วนใหญ่มีคุณสมบัติครบถ้วนเกือบ 100% เป็นจำนวนกว่า สามแสนกว่าบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากสำนักงานใหญ่ แน่นอน
rn
นอกจากนี้ อีกประเด็นหนึ่งที่หัวหน้าสำนักงานสาขาจังหวัดมุกดาหาร อยากเพิ่มเติม ก็คือ การรับชำระหนี้คืนจากสมาชิกเกษตรกรที่กองทุนฟื้นฟูฯได้ชำระหนี้แทนแล้วนั้น เกษตรกรบางรายก็ให้ความสำคัญและยังคงเข้ามาจ่ายชำระเงินคืนให้กับกองทุนฟื้นฟู ณ สาขาจังหวัดมุกดาหารเมื่อครบกำหนดอย่างต่อเนื่อง ส่วนบางรายที่ยังไม่ได้มาชำระเงินคืนทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟู สาขาจังหวัดมุกดาหาร ได้มีแผนงานในการติดตามการชำระหนี้คืนให้กับกองทุนฟื้นฟูฯ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การตรวจสอบการครบกำหนดรอบการชำระหนี้ ของสมาชิกแต่ละรายที่ได้รับการชำระหนี้แทน และต้องมาชำระหนี้คืนให้กับทางกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า รวมถึงการลงพื้นที่พบปะ เยี่ยมเยือนสมาชิกรายองค์กร/รายบุคคล เพื่อเป็นการให้กำลังใจ และสอบถามความเป็นอยู่ ของการดำเนินชีวิต เป็นต้น
rn
เมื่อได้ดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกร เสร็จสิ้นแล้ว ในส่วนของสาขาจังหวัดที่จะต้องทำก็คือ การจัดทำนิติกรรมสัญญา แต่ละรายให้สมบูรณ์ ซึ่งสาขาจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการจัดทำนิติกรรมสัญญา เสร็จสิ้นครบทุกรายแล้วทั้งสองสหกรณ์
rn
อีกประเด็นหนึ่ง หัวหน้าสำนักงานยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ ทั้งที่เซ็นต์ ปคน.3 ไปแล้ว ยังคงติดตามผลการชำระหนี้คืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ส่วนที่ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญา ปคน.3 หัวหน้าสำนักงานก็ให้ความสำคัญ ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯและรอการอนุมัติรายชื่อเพิ่มเติมจากสถาบันเจ้าหนี้ ต่อไป
rn
ส่วนโครงการเงินกู้ยืมไม่เกิน 500,000 บาท ที่ได้อนุมัติผ่านทั้งหมด 12 องค์กร ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดมุกดาหาร กำลังดำเนินการจัดทำ เรื่องเงื่อนไข กฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กรให้สมาชิกมีความเข้าใจ ในกระบวนการต่างๆร ก่อนทำสัญญารับเงินกู้ยืมนำไปบริหารจัดการในองค์กร และทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีการกำหนดการฝึกอบรมโครงการ “ พัฒนาศักยภาพองค์กรเกษตรกรที่ได้รับเงินกู้ยืม” ในระหว่างวันที่ 24 – 25 พฤษภาคม ณ โรงแรมธารจินดา รีสอร์ท
rn
ส่วนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่าน ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดประชุมคณะกรรมการจังหวัด ครั้งที่ 4/2555 ได้ประชุมหารือเรื่อง ต่างๆดังหนี้
– การจัดการหนี้ NPA และหนี้นิติบุคคลอื่นให้กับพี่น้อง
– การชำระหนี้แทนเกษตรกรที่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานใหญ่
– ชี้แจงการดำเนินงานโครงการกู้ยืมไม่เกิน 500,000 บาท
– การรับรองการขึ้นทะเบียนหนี้และทะเบียนองค์กรให้กับสมาชิก
– ชี้แจงเงินสนับสนุน 7,000 บาท สำหรับสมาชิกที่ได้รับสิทธิโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ
ทั้งนี้ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดมุกดาหาร ได้รับเกียรติจากทาง ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขา ภูมิภาคที่ 3 พร้อมคณะเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการในครั้งนี้ด้วย
ทางคณะอนุกรรรมการจังหวัดมุกดาหารได้ฝากให้ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขา ภูมิภาคที่ 3 เป็นตัวแทนผลักดันในการขับเคลื่อน การอนุมัติเงินฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ
(เงิน 7,000) รวมถึงรายชื่อสมาชิกที่ผ่านการอบรมแล้วแต่ยังไม่ได้เซ็นต์ ปคน3. เพราะรายชื่อไม่ตรงกับทางสถาบันเจ้าหนี้ ตลอดจนร่วมปรึกษาหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องเกษตรกร ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.วิญญู สะตะ ได้ฝากยุทธศาสตร์ การสะสางงานเก่าที่ยังค้างคาให้ดำเนินการลุล่วงไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งการดำเนินงานภายในสาขา ประกอบด้วย
rn
– การบริหารงานสำนักงาน
– งานด้านการฟื้นฟูอาชีพ
rn
– งานด้านการจัดการหนี้
– โครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ
– งานเฉพาะกิจของสาขาจังหวัด
rn
rn
(*_*) สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดมุกดาหาร จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องเกษตรกร คือหัวใจสำคัญของเรา (*_*)
ประธานกรรมการบริหารตรวจเยี่ยมสำนักงานสาขาจังหวัดราชบุรี
rn
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมคณะฯ ได้ไปเป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการ “พระราชดำริจากยอดเขาสู่ชาวเลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ” ซึ่งสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดราชบุรีจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2554 ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดดอนเสลา ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
rn
ในโอกาสนี้ นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา พร้อมคณะฯ ได้แวะตรวจเยี่ยมสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดราชบุรี และให้ข้อคิดในการปฏิบัติงานแก่พนักงานและลูกจ้าง โดยมี นายสุพจน์ แสงประทุม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จังหวัดราชบุรี ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดราชบุรี และ นายมนตรี ทองปรีชา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยพนักงานและลูกจ้างให้การต้อนรับโดยพร้อมเพรียง
ประชุมหารือ
rn
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้จัดประชุมหารือร่วมกรรมการผู้แทนเกษตรกร และผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และที่ปรึกษากองทุนฟื้นฟูฯ ครั้งที่ 3/ 2554 โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาร่างกฎกระทรวง กำหนดการแบ่งภูมิภาคและการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ. …. การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 รวมทั้งพิจารณาการสรรหารักษาการเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา เกษตรกร ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
rn
หลักเกณฑ์การดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร
**** หลักเกณฑ์การดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ****
rn
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อสรุปการหารือระหว่างกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้ง 6 ข้อ ดังนี้
rn
1. การดำเนินการเริ่มต้นจะดำเนินการกับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ซึ่งเกษตรกรลูกหนี้จำนวนนี้มีประมาณ 80,000 ราย ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ก.ส. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ธอส. และ ธ.ออมสิน โดยสถานะหนี้เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ 31 ธันวาคม 2552 โดยกำหนดต้นเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อราย และเมื่อเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เกษตรกรลูกหนี้จะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มกับสถาบันการเงินในโครงการทั้ง 4 ธนาคาร
rn
2. การปรับโครงสร้างหนี้ จะเป็นการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมด เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว
rn
3. การผ่อนชำระ เกษตรกรลูกหนี้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ จะต้องผ่อนชำระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตามฤดูการขายผลผลิตเรียบร้อยแล้ว และไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี เว้นแต่เกษตรกรลูกหนี้ประสงค์จ่ายเป็นรายเดือน โดยให้ 3 ฝ่าย คือ เกษตรกรลูกหนี้ สถาบันเจ้าหนี้ และกองทุนฟื้นฟูฯ หารือร่วมกันเพื่อตกลงกันเป็นราย ๆ
rn
4. อัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยคือ MRR ของต้นเงินเดิมแต่ธนาคารเรียกเก็บเพียง MRR-3 ของต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งหลังปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โดยดอกเบี้ยที่ไม่เรียกเก็บจะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรลูกหนี้ได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว
rn
5. การผิดนัดชำระ จะใช้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันคือ 90 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ และธนาคารสามารถดำเนินคดีตามปกติได้ โดยมีข้อยกเว้นดังต่อไปนี้
rn
5.1 กรณีประสบภัยพิบัติ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระ แต่ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงว่าประสบภัยพิบัติจริง และในระหว่างระยะการกู้ 15 ปีนั้น ระยะเวลาที่ประสบภัยพิบัติต้องรวมกันไม่เกิน 2 ปี (จำนวนครั้งไม่จำกัด)
rn
5.2 กรณีเกษตรกรมีปัญหาสุขภาพ ต้องมีเอกสารรับรองและจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
rn
5.3 กรณีมีเหตุอันควรให้พิจารณาผ่อนตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
rn
โดยกรณีข้อยกเว้นดังกล่าว จะมีคณะกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณา และหากสุดท้ายเกษตรกร ลูกหนี้กลับมาเป็นเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เกษตรกรลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้ตามนิติกรรมเดิม ซึ่งจะถูกเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด (ตามข้อ 2) และดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้เรียกเก็บในส่วนของหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว (ตามข้อ 4)
rn
6. สำหรับลูกหนี้ที่มีหลักประกันและหลักประกันมีมูลค่าสูงกว่ามูลหนี้ที่ได้รับการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) นั้น เพื่อความถูกต้อง รอบคอบ และรัดกุม เห็นควรเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายในประเด็นความรับผิดชอบของกรรมการธนาคารที่จะอนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรที่จะทำให้ธนาคารได้รับคืนเงินต้นต่ำกว่ามูลค่าหลักประกัน
เรื่องเดิม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจของนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรอย่างบูรณาการ ได้เสนอการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และเป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยให้มีการปรับโครงสร้างหนี้โดยการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้คืนงวดสุดท้ายแล้ว และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรประสานงานกับธนาคารทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
rn
rn