คำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร วันที่ 7 เมษายน 2553 ดาวน์โหลดไฟล์
rn
คำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกากรณีการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร วันที่ 7 เมษายน 2553 ดาวน์โหลดไฟล์
rn
**** หลักเกณฑ์การดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ****
rn
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อสรุปการหารือระหว่างกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้ง 6 ข้อ ดังนี้
rn
1. การดำเนินการเริ่มต้นจะดำเนินการกับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ซึ่งเกษตรกรลูกหนี้จำนวนนี้มีประมาณ 80,000 ราย ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ก.ส. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ธอส. และ ธ.ออมสิน โดยสถานะหนี้เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ 31 ธันวาคม 2552 โดยกำหนดต้นเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อราย และเมื่อเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เกษตรกรลูกหนี้จะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มกับสถาบันการเงินในโครงการทั้ง 4 ธนาคาร
rn
2. การปรับโครงสร้างหนี้ จะเป็นการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมด เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว
rn
3. การผ่อนชำระ เกษตรกรลูกหนี้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ จะต้องผ่อนชำระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตามฤดูการขายผลผลิตเรียบร้อยแล้ว และไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี เว้นแต่เกษตรกรลูกหนี้ประสงค์จ่ายเป็นรายเดือน โดยให้ 3 ฝ่าย คือ เกษตรกรลูกหนี้ สถาบันเจ้าหนี้ และกองทุนฟื้นฟูฯ หารือร่วมกันเพื่อตกลงกันเป็นราย ๆ
rn
4. อัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยคือ MRR ของต้นเงินเดิมแต่ธนาคารเรียกเก็บเพียง MRR-3 ของต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งหลังปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โดยดอกเบี้ยที่ไม่เรียกเก็บจะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรลูกหนี้ได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว
rn
5. การผิดนัดชำระ จะใช้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันคือ 90 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ และธนาคารสามารถดำเนินคดีตามปกติได้ โดยมีข้อยกเว้นดังต่อไปนี้
rn
5.1 กรณีประสบภัยพิบัติ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระ แต่ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงว่าประสบภัยพิบัติจริง และในระหว่างระยะการกู้ 15 ปีนั้น ระยะเวลาที่ประสบภัยพิบัติต้องรวมกันไม่เกิน 2 ปี (จำนวนครั้งไม่จำกัด)
rn
5.2 กรณีเกษตรกรมีปัญหาสุขภาพ ต้องมีเอกสารรับรองและจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
rn
5.3 กรณีมีเหตุอันควรให้พิจารณาผ่อนตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
rn
โดยกรณีข้อยกเว้นดังกล่าว จะมีคณะกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณา และหากสุดท้ายเกษตรกร ลูกหนี้กลับมาเป็นเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เกษตรกรลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้ตามนิติกรรมเดิม ซึ่งจะถูกเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด (ตามข้อ 2) และดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้เรียกเก็บในส่วนของหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว (ตามข้อ 4)
rn
6. สำหรับลูกหนี้ที่มีหลักประกันและหลักประกันมีมูลค่าสูงกว่ามูลหนี้ที่ได้รับการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) นั้น เพื่อความถูกต้อง รอบคอบ และรัดกุม เห็นควรเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายในประเด็นความรับผิดชอบของกรรมการธนาคารที่จะอนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรที่จะทำให้ธนาคารได้รับคืนเงินต้นต่ำกว่ามูลค่าหลักประกัน
เรื่องเดิม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจของนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรอย่างบูรณาการ ได้เสนอการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และเป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยให้มีการปรับโครงสร้างหนี้โดยการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้คืนงวดสุดท้ายแล้ว และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรประสานงานกับธนาคารทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
rn
rn
1. โครงสร้างและการบริหารงาน พ.ศ.2553 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2564
3. การรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกร พ.ศ.2563
4. การรับ การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน พ.ศ.2543
5. การรับ การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2547
6. การรับ การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563
7. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน และค่าใช้จ่ายตามภาระผูกพันของกองทุน พ.ศ.2553
8. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน และค่าใช้จ่ายตามภาระผูกพันของกองทุน(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564
9. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกร พ.ศ.2547
10. ค่าเบี้ยประชุม ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการจัดการหนี่้ของเกษตรกร พ.ศ.2553
11. ประมวลจริยธรรมของกรรมการ เลขาธิการ พนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2554
12. ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ.2547
14. การสรรหาและแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. 2566
15. การกระจายอำนาจการบริหาร พ.ศ.2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2557
16. การจัดการทรัพย์สินและดอกผลของกองทุนและการจัดหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินและดอกผลของกองทุน พ.ศ. 2563
19. การจัดการหนี้ของเกษตรกร กรณีที่มีบุคคลค้ำประกัน พ.ศ.2563 (ฉบับลงวันที 18 ธ.ค. 2563)
1. การบริหารงานบุคคล พ.ศ.2554 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563
2. การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของสำนักงาน พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2559 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561
3. วิธีการเบิกจ่ายค่าจ้าง พ.ศ.2543
4. การเบิกค่าเช่าบ้านของพนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2565
5. ค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัวในการเดินทางปฏิบัติงานประจำในราชอาณาจักร พ.ศ.2565
6. เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และการเบิกจ่ายสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงาน พ.ศ.2554 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2563
7. การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน พ.ศ. 2554
8. รถและการใช้รถของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2564
9. ระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ว่าด้วยการช่วยเหลือบุคคลซึ่งถูกดำเนินคดีเนื่องจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ พ.ศ. 2565
1. การปฏิบัติงานของเลขาธิการและการมอบอำนาจให้ผู้อื่นปฏิบัติงานแทน พ.ศ.2554
2. การออกบัตรพนักงานและผู้ปฏิบัติงานสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2555
3.เครื่องแบบปฏิบัติงานของพนักงานและผู้ปฏิบัติงานและการจัดหาเครื่องแบบ พ.ศ.2555
1. กำหนดการแบ่งภูมิภาคและการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ.2544
2. กำหนดการแบ่งภูมิภาคและการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการวางเงินชำระหนี้แทนเกษตรกร พ.ศ. 2566
2. หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2563
3. แนวทางการพิจารณาแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2563
4. แบบเสนอแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2563
6. การมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้คณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัด
7. กฎบัตรการตรวจสอบภายในของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
1. ประกาศคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เรื่อง การขึ้นทะเบียนหนี้และการเพิกถอนทะเบียนหนี้ พ.ศ. 2566
3. ประกาศคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เรื่อง การพิจารณาอุทธรณ์การขึ้นทะเบียนหนี้และการจัดการหนี้ของเกษตรกร พ.ศ.2565
6. ประกาศคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดการหนี้และการจำแนกแยกประเภทหนี้ของเกษตรกร พ.ศ.2565
1. หลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
2. การติดตามการชำระเงินคืนของเกษตรกร
3. คู่มือการอุทธรณ์การขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร พ.ศ.2562
7. การใช้แบบเสนอแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามที่คณะกรรมการบริหารฯ กำหนด
12. ประกาศการงบประมาณ พ.ศ. 2566
1. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 มีนาคม 2549 เรื่อง เงินชดเชยสหกรณ์
2. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 สิงหาคม 2549 เรื่อง เงินชดเชยสหกรณ์
3. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 มิถุนายน 2551 เรื่อง เงินชดเชยสหกรณ์
4. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 มกราคม 2552 เรื่อง เงินชดเชยสหกรณ์และ NPA
6. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 เมษายน 2553 เรื่อง โครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร
8. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 18 มกราคม 2554 เรื่อง โครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร
11. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 เมษายน 2555 เรื่อง ปรับปรุงหลักเกณฑ์การซื้อทรัพย์ (NPA)
12. มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 สิงหาคม 2556 เรื่อง ขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงสร้างหนี้
3. เรื่องเสร็จที่ 448/2548 ขอหารือเกี่ยวกับการมอบอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาธิการ
5. เรื่องเสร็จที่ 471/2548 ขอหารือเกี่ยวกับความมีผลของคำสั่งให้พนักงานพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
7. เรื่องเสร็จที่ 243/2549 ขอหารือเกี่ยวกับอำนาจในการออกพันธบัตรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
25. หารือกรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนกรรมการโดยตำแหน่ง
คำสั่งสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ 1650/2564 เรื่อง-ปรับปรุงคำสั่งสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ 1043/2564 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เรื่อง การมอบหมายและมอบอำนาจให้พนักงานปฏิบัติงานแทนเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
1. พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 459) พ.ศ. 2549
2. พระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
3. ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัศดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
(ยกเลิก) 1. การยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ.2553
(ยกเลิก) 2. หลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร พ.ศ. 2553
(ยกเลิก) 3. การรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกร พ.ศ.2554
(ยกเลิก) 4. การพิจารณาแผนและโครงการ การจ่ายเงิน การใช้คืนเงินกองทุน และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2543
(ยกเลิก) 5. การพิจารณาแผนและโครงการ การจ่ายเงิน การใช้คืนเงินกองทุน และการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2547
(ยกเลิก) 6. การยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ.2559
(ยกเลิก) 7. หลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร พ.ศ. 2559
(ยกเลิก) 8. หลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร พ.ศ.2560
(ยกเลิก) 9. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการซื้อ เช่าซื้อ หรือเช่าทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันไปจากกองทุนและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของเกษตรกรที่ตกเป็นของกองทุน พ.ศ.2553
(ยกเลิก) 10. บัตรประจำตัวกรรมการ กรรมการบริหาร อนุกรรมการ เลขาธิการ พนักงาน ลูกจ้างกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2547
(ยกเลิก) 11. การกระจายอำนาจการบริหาร พ.ศ.2547
(ยกเลิก) 12. การกระจายอำนาจการบริหาร(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2549
(ยกเลิก) 13. หลักเกณฑ์การจัดการทรัพย์สินของเกษตรกรที่ได้มีการบังคับคดีเสร็จสิ้นแล้ว พ.ศ.2553
(ยกเลิก) 15. การบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2543
(ยกเลิก) 16. การสงเคราะห์และสวัสดิการของพนักงานและลูกจ้าง พ.ศ. 2547
(ยกเลิก) 17. สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล และการคลอดบุตร ของพนักงานและลูกจ้าง พ.ศ.2552
(ยกเลิก) 19. หลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร พ.ศ. 2546 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547
(ยกเลิก) 21. หลักเกณฑ์การจัดการทรัพย์สินของเกษตรกรที่ถูกขายทอดตลาด พ.ศ.2552
(ยกเลิก) 22. การรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกร พ.ศ. 2542
(ยกเลิก)23. หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดการหนี้ตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2560
(ยกเลิก) 24. การจัดการหนี้เกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรีมอบหมาย พ.ศ. 2559
(ยกเลิก) 25. หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร พ.ศ.2561
(ยกเลิก) 26. เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับ การรักษาพยาบาลของพนักงาน พ.ศ.2554 (ฉบับลงวันที่ 22 เมษายน 2554)
(ยกเลิก) 27. การขึ้นทะเบียนหนี้และการเพิกถอนทะเบียนหนี้ พ.ศ.2563 (ฉบับลงวันที่ 4 มีนาคม 2563)
(ยกเลิก) 30. การรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกร พ.ศ.2559
บันทึกถ้อยคำ ประกอบระเบียบว่าด้วยการรับขึ้นทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนองค์กรเกษตรกร
(ยกเลิก) 32. หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2549
(ยกเลิก) 33. การเปิดรับแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2552
(ยกเลิก) 34. เรื่อง 1.แบบเสนอแผนองค์กรเกษตรกร 2.แบบเสนอโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรปี 2552
(ยกเลิก) 35. หลักเกณฑ์การจัดการทรัพย์สินหลักประกันของเกษตรกรที่ได้มีการจำหน่ายจ่ายโอนเพื่อการชำระหนี้ พ.ศ. 2563 (ฉบับลงวันที่ 19 ก.พ. 2563)
(ยกเลิก) 36. การพิจารณาแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรขององค์กรเกษตรกร การติดตามและประเมินผลการดำเนินการการเบิกจ่ายเงิน และการใช้คืนเงินให้แก่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2562
(ยกเลิก) 37. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโอนทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ และการเช่า เช่าซื้อ หรือซื้อทรัพย์คืนไปจากกองทุน พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
(ยกเลิก) 40. รถและการใช้งานรถของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2554 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555
(ยกเลิก) 41. บัตรประจำตัวกรรมการบริหาร กรรมการจัดการหนี้ และเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2556
(ยกเลิก) 42. การพัสดุ พ.ศ. 2547
(ยกเลิก) 43. สิทธิการเบิกค่าเช่าบ้าน หรือสิทธิการเบิกค่าเช่าซื้อบ้าน พ.ศ.2554
(ยกเลิก) 45. ค่าขนย้ายสิ่งของส่วนตัวในการเดินทางปฏิบัติงานประจำในราชอาณาจักร พ.ศ.2554
(ยกเลิก) 48. ประกาศคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดการหนี้และจำแนกแยกประเภทหนี้ของเกษตรกร (ฉบับที่ ๓)
(ยกเลิก) 51. การสรรหาและแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. 2542
(ยกเลิก) 52. การสรรหาและแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547
(ยกเลิก) 53. ประกาศคณะกรรมการบริหาร เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการวางเงินชำระหนี้แทนเกษตรกร พ.ศ.2563
นายอุปถัมภ์ ยกเส้ง รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสงขลา นายลัภย์ หนูประดิษฐ์ (เสื้อเทา) ประธานกรรมการบริหารสหกรณ์การเกษตรหาดใหญ่ นางวรรณา ไชยบัญดิษฐ์ (เสื้อเหลือง) ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหาดใหญ่ จำกัด พร้อมด้วยนางรัตนา รองสวัสดิ์ ประธานองค์กรกลุ่มสานใยใจเกษตรกรและสมาชิก ซึ่งได้มาร่วมเป็นสักขีพยานในการชำระหนี้แทน ได้ถ่ายภาพร่วมกับนายประสิทธิ์ รัตนโชเต สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (เสื้อน้ำตาล) เมื่อวานนี้ ดาวน์โหลดไฟล์
rn
**** หลักเกณฑ์การดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ****
rn
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อสรุปการหารือระหว่างกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้ง 6 ข้อ ดังนี้
rn
1. การดำเนินการเริ่มต้นจะดำเนินการกับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ซึ่งเกษตรกรลูกหนี้จำนวนนี้มีประมาณ 80,000 ราย ซึ่งเป็นลูกหนี้ของธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธ.ก.ส. บมจ. ธนาคารกรุงไทย ธอส. และ ธ.ออมสิน โดยสถานะหนี้เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ 31 ธันวาคม 2552 โดยกำหนดต้นเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อราย และเมื่อเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เกษตรกรลูกหนี้จะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มกับสถาบันการเงินในโครงการทั้ง 4 ธนาคาร
rn
2. การปรับโครงสร้างหนี้ จะเป็นการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมด เมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว ฃ
rn
3. การผ่อนชำระ เกษตรกรลูกหนี้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ จะต้องผ่อนชำระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตามฤดูการขายผลผลิตเรียบร้อยแล้ว และไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี เว้นแต่เกษตรกรลูกหนี้ประสงค์จ่ายเป็นรายเดือน โดยให้ 3 ฝ่าย คือ เกษตรกรลูกหนี้ สถาบันเจ้าหนี้ และกองทุนฟื้นฟูฯ หารือร่วมกันเพื่อตกลงกันเป็นราย ๆ
rn
4. อัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยคือ MRR ของต้นเงินเดิมแต่ธนาคารเรียกเก็บเพียง MRR-3 ของต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งหลังปรับโครงสร้างหนี้แล้ว โดยดอกเบี้ยที่ไม่เรียกเก็บจะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรลูกหนี้ได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายแล้ว
rn
5. การผิดนัดชำระ จะใช้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันคือ 90 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ และธนาคารสามารถดำเนินคดีตามปกติได้ โดยมีข้อยกเว้นดังต่อไปนี้
rn
5.1 กรณีประสบภัยพิบัติ ไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระ แต่ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงว่าประสบภัยพิบัติจริง และในระหว่างระยะการกู้ 15 ปีนั้น ระยะเวลาที่ประสบภัยพิบัติต้องรวมกันไม่เกิน 2 ปี (จำนวนครั้งไม่จำกัด)
rn
5.2 กรณีเกษตรกรมีปัญหาสุขภาพ ต้องมีเอกสารรับรองและจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
rn
5.3 กรณีมีเหตุอันควรให้พิจารณาผ่อนตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
rn
โดยกรณีข้อยกเว้นดังกล่าว จะมีคณะกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณา และหากสุดท้ายเกษตรกร ลูกหนี้กลับมาเป็นเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เกษตรกรลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้ตามนิติกรรมเดิม ซึ่งจะถูกเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด (ตามข้อ 2) และดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้เรียกเก็บในส่วนของหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว (ตามข้อ 4)
rn
6. สำหรับลูกหนี้ที่มีหลักประกันและหลักประกันมีมูลค่าสูงกว่ามูลหนี้ที่ได้รับการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) นั้น เพื่อความถูกต้อง รอบคอบ และรัดกุม เห็นควรเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายในประเด็นความรับผิดชอบของกรรมการธนาคารที่จะอนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกรที่จะทำให้ธนาคารได้รับคืนเงินต้นต่ำกว่ามูลค่าหลักประกัน
rn
เรื่องเดิม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจของนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรอย่างบูรณาการ ได้เสนอการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) และเป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยให้มีการปรับโครงสร้างหนี้โดยการพักชำระต้นเงินครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้เกษตรกรผ่อนชำระหนี้ต้นเงินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามงวดและระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี ต้นเงินและดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการลดให้ทั้งหมดเมื่อเกษตรกรได้ชำระหนี้คืนงวดสุดท้ายแล้ว และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรประสานงานกับธนาคารทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ. ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน (ธ.ออมสิน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
rn
{phocadownload view=file|id=52|target=s}