rn
สำนักงานสาขาจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมองค์กรเกษตรกรที่ได้รับงบกู้ยืม และได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์กรเกษตรกรที่เข้มแข็ง จากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯสาขาจังหวัดพิจิตร จำนวน 2 องค์กร คือ กลุ่มบึงทับจั่นร่วมใจ และกลุ่มผู้ปลูกข้าวบ้านเนินทราย เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา
rn
นางนุชฎา จำเริญสาร รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดพิจิตร พร้อมพนักงาน ลูกจ้างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมองค์กรเกษตรกรที่ได้รับงบกู้ยืม และได้รับการคัดเลือกจากสาขาจังหวัดพิจิตร ให้เป็นองค์กรเกษตรกรที่เข้มแข็ง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มบึงทับจั่นร่วมใจ และกลุ่มผู้ปลูกข้าวบ้านเนินทราย
rn
กลุ่มบึงทับจั่นร่วมใจเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เมื่อปี 2543 รหัสองค์กร 6643005221 มีนายสมพงษ์ สีเรือง เป็นประธานองค์กร ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 130 ราย สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาข้าว และเลี้ยงสัตว์ แต่ประสบปัญหาขายผลผลิตได้ราคาไม่คุ้มกับต้นทุน ทำให้เกิดภาวะหนี้สิน ดังนั้นกลุ่มบึงทับจั่นร่วมใจ จึงเสนอแผนและโครงการพัฒนาศักยภาพองค์กรและพัฒนาอาชีพต้นแบบ เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุน (งบกู้ยืม) จากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ และได้รับงบประมาณสนับสนุนประเภทกู้ยืมจำนวน 407,500 บาท ในโครงการ “ทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนบาท” ทำให้องค์กรสามารถวางแผนการบริหารจัดการองค์กรของตนเองได้และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยองค์กรจัดทำแปลงสาธิตการทำนาเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นสถานที่ดูงาน และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่สมาชิกองค์กรต่อไป ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรเกษตรกรโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการมีส่วนร่วม เป็นยุทธวิธี ที่ทำให้องค์กรเกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
rn
จากนั้นได้เดินทางไปยังกลุ่มผู้ปลูกข้าวบ้านเนินทราย รหัสองค์กร 6643001358 ตำบลสายคำโห้ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยมีนายเพราะ อาจวงษ์ ประธานองค์กรเกษตรกรและสมาชิกต้อนรับ กลุ่มนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนประเภทกู้ยืมจำนวน 337,800 บาท จากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในโครงการ “การเลี้ยงปลาในบ่อดิน” มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 48 คน ได้รับการพัฒนาศักยภาพองค์กรและพัฒนาอาชีพแบบยั่งยืนแก่สมาชิก ทำให้เกษตรกร องค์กรเกษตรกรสามารถวางแผนการบริหารจัดการองค์กรของตนเองได้และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้มีบ่อสาธิตการเลี้ยงปลา,กบในบ่อดิน ซึ่งจะเป็นสถานที่ดูงาน และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรต่อไป
rn
โดยที่ผ่านมาสาขาจังหวัดได้ร่วมดำเนินการ กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จอย่างชัดเจนทำให้องค์กรเกษตรกรเกิดกระบวนการเรียนรู้และมีความสามารถในการดำเนินการทางการเกษตร ทั้งในระดับของการพึ่งพาตนเองและในระดับของการแข่งขันเป็นกลไกหนึ่งที่สนับสนุนให้เกษตรกรได้รับการพัฒนาอย่างเต็มความสามารถไปสู่เป้าหมายของการนำเอากระบวนการกลุ่ม การเสริมสร้างเชื่อมโยงเครือข่าย การมีส่วนร่วม การเสริมสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกรให้มีความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหา การกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาและจัดการกับทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างชาญฉลาด เข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กร และก่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือและการดำเนินการเพื่อการพัฒนาองค์กรเกษตรกรให้เข้มแข็ง
rn
rn