
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.40 น. สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) จัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องประชุม 134-135 ชั้น 3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตามมอบหมายของนายพิชัย ชุณหวิชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงาน กฟก.ทำหน้าที่เลขานุการคณะ และมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานและอนุมัติขยายเวลาโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง พร้อมมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ รวบรวมความเห็นเพื่อรายงานคณะรัฐมนตรี
สำหรับวาระเพื่อพิจารณาที่ประชุมมีมติเห็นชอบเรื่องสำคัญ ดังนี้
• แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบและกฎบัตรคณะอนุกรรมการตรวจสอบกองทุนฟื้นฟูฯ
• เห็นชอบแต่งตั้ง นางวรรณี มหาณีรานนท์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงาน กฟก. พร้อมกำหนดค่าจ้าง ค่าตอบแทน และเงื่อนไขการจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปี หรือจนถึงอายุ 65 ปีบริบูรณ์ พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารดำเนินการทำสัญญาจ้างและประเมินผลการปฏิบัติงานตามระเบียบต่อไป
• อนุมัติให้คณะกรรมการจัดการหนี้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ระหว่าง 1 ก.พ.–30 มิ.ย. 2568 จำนวน 7,616 ราย รวมมูลหนี้ 6,220,612,359.10 บาท
• เห็นชอบรายชื่อเกษตรกรสมาชิกกฟก.ที่เป็นหนี้ NPA เพิ่มเติม 19 ราย อนุมัติซื้อทรัพย์ NPA จำนวน 30 แปลง รวมมูลค่า 60,459,750 บาท
• อนุมัติให้นิติบุคคล 11 ราย เป็นสถาบันการเงินตามมาตรา 37/1 วรรค 4
• กรณีร่างระเบียบคกก.กองทุนฯ ว่าด้วยการจัดการหนี้บุคคลค้ำประกัน ให้กรรมการนำไปดูรายละเอียด หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อสังเกต ให้แจ้งมาที่ฝ่ายเลขา และเสนอไปที่คณะกรรมการจัดหนี้ฯ เพื่อพิจารณาก่อนเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาครั้งต่อไป
. สำหรับร่างระเบียบ หลักการและนโยบายการบัญชีกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้กรรมการนำไปดูรายละเอียด หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อสังเกต ให้แจ้งมาที่ฝ่ายเลขา ภายใน 7 วัน หากไม่มีข้อสังเกตแจ้งมายังฝ่ายเลขา ถือว่าเห็นชอบตามที่เสนอ
• เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการมีส่วนร่วมและติดตามมติคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
• เห็นชอบรับหลักการร่างระเบียบกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ว่าด้วยเงินสวัสดิการและประโยชน์ทดแทน โดยให้ สนง.หารือกับก.คลัง สำนักงบประมาณ และนำมาเสนอที่ประชุมในต่อไป




















