rn
rn
rn
rn
rn
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ธกส.สาขาอำเภอกระบุรี จังหวัดระนองได้นัดเกษตรกรสังกัดกลุ่มพลัง จปร. ฟื้นฟูการเกษตรที่เป็นหนี้ ธกส.และเป็นหนี้ใกล้หมดอายุความ มาทำสัญญารับสภาพหนี้ เพื่อไม่ให้ ธกส.ดำเนินคดีกรณีหนี้ใกล้หมดอายุความ
rn
นายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดระนอง ได้กล่าวเปิดเผยว่า ได้รับหนังสือเชิญจากประธานกลุ่มพลัง จปร. ฟื้นฟูการเกษตร ให้เข้าร่วมประชุมชี้แจงถึงหลักเกณฑ์และวิธีการชำระหนี้แทนเกษตรกรสมาชิกเนื่องจาก ธกส.ได้นัดสมาชิกของกลุ่มที่มีหนี้ใกล้หมดอายุความมาทำสัญญารับสภาพหนี้ และทางสมาชิกเกรงว่าถ้าหากสมาชิกในองค์กรไปทำสัญญารับสภาพหนี้ โดยทาง ธกส.ให้สมาชิกรักษาสภาพบัญชีคนละ 100 บาท สภาพหนี้ของสมาชิกจะเปลี่ยนเป็นหนี้ปกติ ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกต้องรอคิวการจัดการหนี้จากกองทุนฟื้นฟูฯ ไปอีกนาน สำนักงานจึงได้เดินทางเข้าร่วมประชุมชี้แจงให้เกษตรกรสมาชิกและผู้แทน ธกส. ได้รับทราบและเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการช่วยเหลือของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยมีนางสาวพร้อมพรรณ พวงแก้ว และนางสาวกฤตยา ซึ่งรับผิดชอบงานจัดการหนี้ของเกษตรกรเกษตรกร ร่วมชี้แจงในครั้งนี้ด้วย
rn
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาระนองได้กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าจะเดินทางไปประชุมได้หารือเรื่องนี้ด่วนไปยังสำนักจัดการหนี้ของเกษตรกรเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และเพื่อไม่ให้ ธกส.เข้าใจว่า กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ให้ความร่วมมือ เนื่องจากว่า วรรคท้ายของบันทึกข้อตกลงข้อ 1 ของวันที่ 19 กันยายน 2555 ได้บันทึกไว้ว่า “นอกจากนี้ กฟก. กับเกษตรกรสมาชิก กฟก.กับผู้แทนเกษตรกร กฟก.ยินดีที่จะนำเกษตรกรที่มีหนี้ใกล้หมดอายุความมาทำสัญญารับสภาพหนี้กับ ธกส.เพื่อไม่ให้ ธกส. ต้องดำเนินคดีเพราะหนี้ใกล้ครบกำหนดอายุความ” โดยรักษาการผู้อำนวยการสำนักหนี้ได้ให้แนวทางมาว่า การยินยอมรับสภาพหนี้ ธกส.เป็นสิทธิ์ของเกษตรกรที่จะรับหรือไม่ไม่รับก็ได้ กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่มีอำนาจไปบังคับหรือให้ความเห็น แต่สำหรับหนี้ที่จะขาดอายุความถ้าหากเกษตรกรยินยอมรับสภาพหนี้ อายุความก็จะขยายออกไป ถ้าไม่ยินยอมรับสภาพหนี้เจ้าหนี้ต้องฟ้องดำเนินคดีเพื่อรักษาสิทธิ์
rn
ทั้งนี้ หลังจากนายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงาน ได้ชี้แจงให้สมาชิกกลุ่มพลัง จปร.ฟื้นฟูเกษตรกรที่มาร่วมประชุมได้เข้าใจแล้ว นายบุญเลิศ สิทธิเวช อนุกรรมการและผู้นำองค์กรขอมติจากที่ประชุมในการยินยอมรับสภาพหนี้ของสมาชิก จำนวน 70 ราย โดยมติที่ประชุมไม่ยินยอมรับสภาพหนี้ โดยจะรอความช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูฯ ต่อไป
