17-14 17-15

rn

นายธนสรรค์ สีสม รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดระยอง เปิดเผยถึงกิจกรรมจากงบที่สำนักงานสนับสนุนให้กับองค์กรเกษตรกรในจังหวัดระยอง ว่า ขณะนี้สำนักงานได้ลงปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อติดตามผลการดำเนินงานขององค์กรเกษตรกรที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์ ประเมินผล รายงานให้สำนักงานใหญ่รับทราบเป็นระยะ อีกทั้งยังเป็นการทำงานในเชิงรุก ให้กำลังใจเกษตรกร รับฟังปัญหาในการจัดกิจกรรม และตรวจสอบการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

rn

โดยล่าสุดได้ติดตามการดำเนินงานของกลุ่มอำเภอแกลงบูรพา รหัสองค์กร 2146000155 ต.พังราด อ.แพลง จ.ระยอง สมาชิกเกษตรกรบริเวณนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ ทำสวนยางพารา และทำนา องค์กรได้รับงบอุดหนุน นำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ จำนวน 160,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งขององค์กร และเรียนรู้การทำเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสมาชิกมีความคาดหวังจะลดต้นทุนการผลิตในการทำเกษตร เนื่องจากปัจจุบันราคาปุ๋ยเคมีแพง ส่งผลให้การทำเกษตรมีต้นทุนสูง ราคาพืชผลตกต่ำ กำไรไม่พอกับรายจ่ายในครัวเรือน และที่สำคัญยังส่งผลเรื่องปัญหาสุขภาพ เกิดโรคภัย ขาดเสาหลักในครัวเรือน สมาชิกจึงรวมกลุ่มกันใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพในพื้นที่ของตัวเอง

rn

งบประมาณที่ได้ครั้งนี้องค์กรนำไปจัดซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์วัสดุที่ใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 80 ตัน โดยให้สมาชิกทั้ง 40 คนที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยกันทำปุ๋ย และให้สมาชิกใช้ปุ๋ยที่ผลิตเองแทนการใช้ปุ๋ยเคมีในพื้นที่เกษตร ซึ่งขณะนี้ทางองค์กรเริ่มแจกจ่ายปุ๋ยให้สมาชิกใช้แล้ว จากการคำนวณต้นทุนการผลิตเบื้องต้น สรุปได้ว่า ต้นทุนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ใช้งบประมาณลงทุนเพียงตันละ 2,000 บาท ในขณะที่ปุ๋ยเคมีในปัจจุบันมีราคาสูงถึงตันละ 16,000 บาท หากเกษตรกรในองค์กรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทน จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ถึงไร่ละ 300 บาท ในอัตราส่วนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 250 กิโลกรัมต่อไร่ แทนปุ๋ยเคมี 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือ 5 ต่อ 1

rn

จากการสอบถาม นายดอกไม้  ใจหาญ ประธานองค์กร และนายวิรัตน์ ทองหล่อ กรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ รวมทั้งสมาชิกองค์กรต่างมีความเห็นร่วมกันแล้วว่าปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่ได้มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตได้จริง