rn
เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์กรเกษตรเสรี รหัสองค์กร ๗๔๔๗๐๐๐๐๖๐ ร่วมกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสมุทรสาคร เดินทางไปที่บ้านเลขที่ ๑๖๘ หมู่ ๑ ตำบลโรงเข้ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมอบเครื่องนอน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง อุปกรณ์สำหรับคนพิการแก่นายเต็ม วงษ์ไล อายุ ๗๗ ปี
rn
โดยภายหลังจากที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับประธานองค์กรนายหยัด พันธสอน และคณะกรรมการองค์กรเกษตรเสรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกองค์กร ทำให้ได้พบเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายเต็ม วงษ์ไล สมาชิกชราภาพที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและประกอบอาชีพใด ๆ ได้ ปัจจุบันอาศัยอยู่กับนางสาวสมร วงษ์ไล อายุ ๗๓ ปี น้องสาวซึ่งป่วยเช่นกัน ทั้งสองคนพี่น้องมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุและ เบี้ยคนพิการเพียงเดือนละ ๑,๗๐๐ บาท และได้รับอาหารจากญาติพี่น้องบ้างเป็นครั้งคราว ยิ่งไปกว่านั้น บ้านที่พักอาศัยมาแล้ว ๕๐-๖๐ ปีก็มีสภาพทรุดโทรม หลังคารั่ว ไม่สามารถกันฝนได้ เสาบ้าน ผุกร่อนจากน้ำท่วมใต้ถุน เป็นเวลายาวนาน ข้างฝาบ้านหลุดพังไปบางส่วนจนแทบจะพักอาศัยไม่ได้
rn
rn
เบื้องต้นองค์กรเกษตรเสรีได้ระดมความช่วยเหลือร่วมกันบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแก่ลุงเต็ม ส่วนการซ่อมแซมบ้านพักทางกลุ่มจะหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม ลุงเต็มเป็นสมาชิกกองทุนฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เดิมทีทำอาชีพเลี้ยงปลาสลิดและปลานิล ๘ ไร่ ในที่ดินมรดกของบิดา ภายหลังจากบิดาเสียชีวิต ลุงได้รับที่ดินมรดกจำนวน ๓ งานซึ่งปลูกเป็นบ้านพักของลุงไว้แต่เดิม และได้กู้เงินจากสหกรณ์การเกษตรบ้านแพ้ว จำกัด จำนวนต้นเงิน ๒๙,๐๐๐ บาทเพื่อมาเลี้ยงปลา แต่ลุงก็ประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ จึงได้นำหนี้ดังกล่าวมาขึ้นทะเบียนกับกองทุนฟื้นฟูฯ ในปี ๒๕๕๒ จากนั้นในปี ๒๕๕๓ ลุงเต็มประสบอุบัติเหตุลื่นล้มหน้าบ้าน ทำให้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถทำงานใด ๆ ได้ ต่อมาในปี ๒๕๕๔ กองทุนฟื้นฟูฯ ได้เข้ามาซื้อหนี้ดังกล่าวจากเจ้าหนี้เดิม ทำให้ลุงเหลือหนี้สินเพียง ๑๔,๕๐๐ บาท กำหนดชำระหนี้ ๑๐ ปี โดยปัจจุบันได้ชำระเงินคืนแล้วจำนวน ๑ งวด ถึงแม้ลุงจะไม่สามารถประกอบอาชีพใด ๆ ได้ แต่ก็ยังอดออมเก็บเบี้ยยังชีพและเบี้ยคนพิการมาใช้หนี้กองทุนตามกำหนดเวลา
rn
rn
ทั้งนี้ น้ำใจไมตรี ความเอื้ออาทร เกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างองค์กรกับเกษตรกรสมาชิก วันนี้ทำให้ชายชราอายุ ๗๗ ปี มีรอยยิ้มปลาบปลื้มใจปะปนกับคราบน้ำตา ประนมมือให้ศีลให้พรแก่ทุกคนที่มาเยี่ยมเยียน จากหน้าตาที่เคยซีดเซียว หม่นหมอง ไร้ซึ่งรอยยิ้ม มาวันนี้ลุงเต็มกลับยิ้มได้ พร้อมทั้งกอดวิทยุทรานซิสเตอร์ไว้แนบกายตลอดเวลา กล่าวขอบคุณซ้ำ ๆ เป็นภาพที่ทำให้คณะกรรมการองค์กรและเจ้าหน้าที่กองทุนฯ ซาบซึ้งใจเป็นยิ่งนักและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์กรเกษตรกรและสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ จะไม่แล้งน้ำใจ เกื้อกูลซึ่งกันและกันตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.๒๕๔๒ สืบไป
rn
rn
rn
