rn
rn
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดระนอง นำโดยนายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงาน นางอรุณี นวลศรี พนักงานอาวุโส นางปณีต บูรณ์พงศ์ ลูกจ้างปรับโครงสร้างหนี้ นายสมควร รัตนเทพี รองประธานคณะอนุกรรมการฯและวิทยากรกระบวนการ นายบุญเลิศ สิทธิเวช นายแดง แสงสุต อนุกรรมการฯจังหวัดระนอง ได้เข้าร่วมเวทีประชาพิจารณ์แผนแม่บทองค์กร กลุ่มรวมพลัง จปร ฟื้นฟูเกษตรกร ณ ที่ทำการกลุ่ม ในหมู่ที่ 6 ตำบล จ.ป.ร อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
rn
นายจอมภพ บุญธรรม ได้เปิดเผยว่า กลุ่มดังกล่าวได้รับงบอุดหนุนจากกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวนเงิน 72,720 บาท เพื่อมาพัฒนาศักยภาพองค์กรให้สมาชิกได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถอดบทเรียนแห่งการเป็นหนี้ ตลอดจนศึกษาความต้องการที่แท้จริงของสมาชิกภายในองค์และชุมชน หลังจากนั้นมาถอดเป็นแผนแม่บทของกลุ่ม ซึ่งจะได้นำไปสู่การยื่นแผนโครงการของบกู้ยืมจาก กองทุนฟื้นฟูฯ ต่อไป โดยมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการจำนวน 106 คน
rn
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาระนอง ยังได้กล่าวต่อไปว่า ทางกลุ่มเกษตรกรได้เชิญ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระนอง เกษตรจังหวัดระนอง รองนายกเทศมนตรีตำบล จ.ป.ร พัฒนาชุมชนตำบล จ.ป.ร. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบล จ.ป.ร และสภาองค์กรชุมชน ตำบล จ.ป.ร ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการประชาพิจารณ์แผนแม่บทองค์กรในครั้งนี้ด้วย
rn
ทางด้าน นายสมควร รัตนเทพี รองประธานคณะอนุกรรมการจังหวัดระนอง ในฐานะวิทยากรกระบวนการ ซึ่งติดตามดูแลองค์กรนี้ตลอดมาแจ้งว่า ตนมาเป็นมาเป็นพี่เลี้ยงในการทำแผนแม่บทครั้งนี้โดยมีกิจกรรม ทั้งหมด 5 เวที และเวทีวันนี้เป็นเวทีสุดท้ายในการทำประชาพิจารณ์แผนแม่บทของกลุ่ม จากการสำรวจอาชีพของสมาชิก ส่วนใหญ่ทำสวนยางพารา ทำไร่กาแฟ และทำสวนไม้ผล สำหรับความต้องการของสมาชิก อยากมีกิจกรรมรวบรวมผลผลิตยางพาราเพื่อไว้ต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง หลังจากมีความเข้มแข็งในการรวบรวมผลผลิตลิต นัยว่าทางกลุ่มพลัง จ.ป.ร จะขอกู้เงินจากกองทุนฟื้นฟูฯ มาทำโรงรมยางพาราต่อไป
rn
นายบัวศรี แจ้งหมื่นไว ประธานกลุ่ม ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ให้การสนับสนุน และขอบคุณหน่วยงานราชการต่างๆที่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสมควร รัตนเพียร ที่มาคอยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำการยกร่างแผน จนออกมาเป็นแผนแม่บทองค์กรได้ และตนจะนำพาสมาชิกกลุ่มไปตามวิถีแห่งความเป็นอยู่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงอย่างยั่งยืน เพื่อมวลสมาชิกได้อยู่ดีกินดีมีความสุข นายบัวศรี แจ้งหมื่นไวกล่าวในที่สุด
