rn
นายวัชระพันธุ์ จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิบัติงานด้านการจัดการหนี้ของเกษตรกร ในปีงบประมาณ 2558 ว่า จากการประชุมหัวหน้าสำนักงานสาขาจังหวัดทั่วประเทศ ที่ สถาบันวิชาการ ทีโอที (TOT Academy) จังหวัดนนทบุรี ได้แจ้งแนวทางให้สาขาจังหวัดรับทราบ โดยในปีนี้ สำนักงานได้รับการจัดการจัดสรรงบรายจ่ายประจำปีในส่วนของการฟื้นฟูอาชีพและการจัดการหนี้ รวมกัน 2 ภารกิจ เป็นเงิน 57,000,000 บาท ซึ่งงบประมาณค่อนข้างจำกัด ไม่เพียงพอต่อการจัดการหนี้ที่มีอยู่ สำนักงานจึงมีความจำเป็นต้องปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง โดยให้สาขาถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
rn
การชำระหนี้แทนเกษตรกร ต้องเป็นหนี้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรเท่านั้น กรณีวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร หนี้ที่ผ่านการอุทธรณ์ และกรณีบุคคลค้ำประกัน ให้ชะลอการดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ท้วงติงว่ามีการจัดการหนี้บางเรื่องที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย สำนักกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูฯ จึงเสนอให้ชะลอการดำเนินงานก่อน เพื่อรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นเสนอคณะกรรมการจัดการหนี้ และคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ชุดใหม่พิจารณาทบทวนแนวทางการช่วยเหลือ หรือหารือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด หรือ คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อวินิจฉัยข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ
rn
ในส่วนของหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และหนี้สหกรณ์ สามารถชำระหนี้แทนได้เฉพาะกรณีหนี้ชั้นบังคับคดี ขายทอดตลาด ซึ่งหนี้สหกรณ์ให้คำนวณดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี หากเป็นหนี้เกิน 10 ปี ให้คิดดอกเบี้ย 7.5% ได้ไม่เกิน 10 ปี ทุกกรณี และหนี้สหกรณ์ให้จัดทำนิติกรรมสัญญากับกองทุนฟื้นฟูฯ เต็มตามจำนวนที่กองทุนฟื้นฟูฯ ชำระหนี้แทน คือเงินต้น 100% และดอกเบี้ย 7.5% ไปก่อนจนกว่ากองทุนฟื้นฟูฯ จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล จึงให้เกษตรกรรับสภาพหนี้เงินต้น 50% ต่อไป
rn
และในขณะนี้ สำนักจัดการหนี้ของเกษตรกร จะเร่งตรวจสอบเอกสารที่สำนักงานสาขาจังหวัดส่งเข้ามาเพื่อขอให้ชำระหนี้แทน หากพบว่ารายใดไม่เข้าเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จะส่งเอกสารคืนให้สำนักงานสาขาเพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้สถาบันเจ้าหนี้และเกษตรกรสมาชิกทราบ
rn
