31-10-pr793 31-10-pr794

rn

31-10-pr79531-10-pr796

rn

31-10-pr79731-10-pr798

rn

31-10-pr79931-10-pr800

rn

31-10-pr80131-10-pr802                                      

rn

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จัดในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุด กับ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เรื่องความร่วมมือในการเผยแพร่ความรู้และช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ณ  ห้องประชุม  120  ปีอัยการ  สำนักงานอัยการสูงสุด

rn

นายปีติพงษ์  พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนองนโยบายรัฐในการเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รับเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ประสบปัญหาเรื่องหนี้สิน ยังขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการขั้นตอนทางด้านกฎหมาย  ถูกเอารัดเอาเปรียบจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม  ทำให้สูญเสียที่ดินทำกินไปเป็นจำนวนมาก

rn

นายปีติพงษ์ กล่าวอีกว่า สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลเกษตรกรของประเทศ มีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มของเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร  ส่งเสริมและสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกร  พัฒนาความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม  เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรเกษตรกร  พัฒนาศักยภาพในการพึ่งพาตนเองและเกื้อกูลซึ่งกันและกันระหว่างเกษตรกร  และแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรอันเนื่องมาจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกรซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรเกษตรกร  ทั้งที่เป็นหนี้ในระบบ  หนี้โครงการส่งเสริมของรัฐ  หนี้สถาบันการเงิน  และหนี้สถาบันเกษตรกร  ปัจจุบันมีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  สังกัดองค์กรเกษตรกรจำนวน  52,637  องค์กร  จำนวน  6,608,436  คน และขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทะเบียนหนี้)  ไว้กับกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน  501,880  ราย  ได้รับการจัดการหนี้  27,461 ราย มูลหนี้รวม  5,764,616,283.49  บาท  เจ้าหนี้หรือบุคคลภายนอกซื้อทรัพย์ไว้ (NPA)  จำนวน  472  ราย  มูลหนี้รวม  265,151,086.10  บาท สามารถรักษาที่ดินทำกินไว้ให้เกษตรกรสมาชิก 130,561  ไร่ 30.1 ตารางวา ซึ่งต้องขอบคุณสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ที่มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้  ที่ได้เล็งเห็นประโยชน์ของการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่เกษตรกรสมาชิกที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ยังขาดความรู้ให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

rn

ด้านนายวัชระพันธุ์ จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ซึ่งด้วยฐานะทางเศรษฐกิจและฐานะทางสังคมของเกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย  ซึ่งอาจถูกเอาเปรียบทั้งทางด้านสัญญาที่ไม่อาจจัดหาทนายความเพื่อช่วยเหลือต่อสู้คดีในชั้นศาลได้  ประกอบกับมีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกเป็นหนี้เร่งด่วน สถานะในชั้นล้มละลาย ขายทอดตลาด บังคับคดี และมีคำพิพากษาจำนวนประมาณ  177,753 ราย เป็นเงิน  44,211,090,679.88  ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือด้านกฎหมายในเบื้องต้น วัตถุประสงค์ของการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้  เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการหนี้ของเกษตรกรสมาชิก และเพื่อร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือ  ไกล่เกลี่ย  ประนอมข้อพิพาท  รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านอรรถคดีแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิก