วันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 20 ตึก 150 ปี กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ครั้งที่ 2/2568 นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ทำหน้าที่เลขานุการคณะ ที่ประชุมมีวาระ
สำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้


วาระเพื่อพิจารณา เห็นชอบให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ รายงานผลการดำเนินงานและขอขยายเวลาการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบและมีมติ ดังนี้
1.รับทราบผลดําเนินการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง และเห็นชอบให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้ออกไปอีก 150 วันโดยมีรายละเอียดดังนี้
1.1 เห็นชอบให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนฟื้นฟูฯ ถูกต้องครบถ้วนแล้ว และเป็นหนี้ NPL ภายในวันที่ 30 พ.ย. 67
1.2 เห็นชอบให้ธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง คิดดอกเบี้ยและเบิกจ่ายเงินชดเชย เงินต้นครึ่งหลัง (ร้อยละ 50) ที่พักไว้ทั้งจํานวนของเกษตรกรที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ วันที่ 11 ธ.ค. 67 (จำนวน 16,794 ราย) และที่แจ้งเพิ่มเติมภายหลังได้ถึงวันที่ 30 พ.ย. 67 ทั้งนี้ ให้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ต้องควบคุมกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรรของแต่ละธนาคาร โดยไม่เกินกรอบวงเงิน 15,481,657,199.77 บาท ตามที่ ครม.อนุมัติไว้ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 66
1.3 เห็นชอบให้ขยายเวลาการดำเนินโครงการ ตั้งแต่ 21 มี.ค. 68 โดยให้ระยะเวลาดำเนินการสิ้นสุดภายใน 150 วัน นับจากวันที่ ครม.มีมติ ทั้งนี้ต้องเป็นเกษตรกรที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 65 และวันที่ 11 ธ.ค. 67 ที่มาแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการก่อนวันที่ 21 มี.ค. 68 โดยจะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้
1.4 มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับธนาคารของรัฐทั้ง 4 แห่ง นำมติ ครม.ไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบการขยายเวลาตามที่ ครม.เห็นชอบ

2. เห็นชอบและอนุมัติให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2568 งบกลาง รายการทุนสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 487,833,249.19 เพื่อใช้สมทบในการดำเนินงานของสำนักงานให้เป็นไปตามภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง