rn
นายนคร ศรีวิพัฒน์ ประธานคณะทำงานพิจารณารับและกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนเปิดเผยว่าจากการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ผ่านมา ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่สาขาจังหวัดต่าง ๆ มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ไม่ว่าจากพนักงาน เกษตรกร บุคคลภายนอก แต่เรื่องร้องเรียนเหล่านั้นไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาตามขั้นตอน จึงมีความล่าช้า ส่งผลให้เกิดปัญหาในการบริหารและการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร คณะกรรมการบริหารฯ จึงมีความเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณากลั่นกรอง สรุป รายงานผลเรื่องร้องเรียน พร้อมข้อเสนอแนะ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการบริหารพิจารณา
rn
จากการที่คณะทำงานได้มีการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าเพื่อให้การดำเนินงานของคณะทำงานเดินหน้าอย่างรวดเร็ว คณะทำงานจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติงานและงบประมาณ หลักเกณฑ์การรับเรื่องร้องเรียนโดยจะต้องมีสาระสำคัญได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่สามารถพิสูจน์ว่ามีตัวตนจริง ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้ร้องเรียน ในกรณีเป็นองค์กรหรือนิติบุคคล ต้องจัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย สถานที่ตั้งขององค์กรที่สามารถติดต่อได้ รวมทั้งการกำหนดช่องทางและขั้นตอนการรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งแต่เดิมมีช่องทางรับเรื่องร้องเรียน 2 ช่องทาง คือ ผู้ร้องเรียนยื่นเอกสารที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ส่วนบริการกลาง หรือเลขาธิการ หรือรองเลขาธิการ ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ และพิมพ์ข้อความในเว็ปไซด์สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ คณะทำงานจึงเห็นว่าควรเพิ่มช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนเป็น 4 ช่องทาง โดยเพิ่มจากเดิมอีก 2 ช่องทาง คือยื่นเอกสารร้องเรียนที่ประธานกรรมการบริหาร หรือประธานกรรมการกองทุนฯ โดยยื่นด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ และยื่นเอกสารร้องเรียนผ่านหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักนายรัฐมนตรี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ปปช.เป็นต้น
rn
เรื่องร้องเรียนที่ร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ จะถูกรวบรวมเพื่อนำเสนอคณะทำงานพิจารณา ซึ่งการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจะเป็นไปตามแผนปฏิบัติงานที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นการดำเนินงานเป็นรูปธรรม สามารถสะสางปัญหาการร้องเรียนที่มีเข้ามาให้แล้วเสร็จอย่างเป็นกระบวนการมีขั้นมีตอน นายนครกล่าว
