4-6-1

rn

4-6-2

rn

4-6-3

rn

4-6-5

rn

4-6-6

rn

4-6-7

rn

4-6-9

rn

นายผ่าน  โคตถา  หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯสาขาจังหวัดนครนายก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม และ 21 พฤษภาคม 2556 สำนักงานร่วมกับคณะอนุกรรมการจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจอุทธรณ์หนี้ในเขตอำเภอปากพลี และอำเภอบ้านนา จำนวน 6 ราย ด้วยเกษตรกรทั้ง 6 ราย ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินและได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาจังหวัดนครนายกไว้ เนื่องจากหนี้ดังกล่าวที่ยื่นไว้กับสำนักงานไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือ จึงจำเป็นต้องให้เกษตรกรยื่นอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

rn

ในเบื้องต้นพบว่า เกษตรกรทั้ง 6 รายส่วนใหญ่เป็นหนี้สหกรณ์เพื่อการเกษตร และประกอบอาชีพเกษตรกรรมจริง 5 ราย อีก 1 ราย มีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยเกษตรกรที่ได้รับสิทธิในการยื่นอุทธรณ์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย รายแรก นางนภัสวรรณ ชื่นใจ เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรปากพลี จำกัด จำนวน 130,000  บาท หลังจากตรวจสอบข้อมูลจากพื้นที่จริง พบว่าเกษตรกรมีอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนมะนาว และมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างแร้นแค้นยากจนพอสมควร รายที่ 2 นางจรูญ ประสมสุข เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรปากพลี จำกัด จำนวนเงิน 160,000 บาท มีอาชีพทำนา รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครัวเรือน ค่อนข้างยากจน

rn

รายที่ 3 นางสัมฤทธิ์ เทียนน้อย เป็นสหกรณ์การเกษตรปากพลี จำกัด จำนวนเงิน 150,000  บาท ประกอบอาชีพทำนา รายที่ 4 นางขวัญใจ เกตุแก้ว เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรบ้านนา จำกัด จำนวน 222,378 บาท  ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาและปลูกหน่อไม้จำหน่ายตามตลาดนัดในชุมชน รายที่ 5 นางเรณู จันทร์เอี่ยม เป็นหนี้ธนาคารไทยพาณิชย์  จำกัด(มหาชน) จำนวน 860,000  บาท  ปัจจุบันเกษตรกรรายนี้ไม่ได้มีอาชีพเกษตรกรรม แต่หันมามีอาชีพรับจ้างทั่วไปแทน และรายสุดท้าย นายอมร จันทร์เพ็ญ เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรปากพลี จำกัด 150,000 บาท มีอาชีพเกษตรกรรมจริง

rn

ซึ่งจากผลการลงตรวจสอบอุทธรณ์ของคณะอนุกรรมการในครั้งนี้ สำนักงานจะเร่งสรุปผลจากข้อเท็จจริงที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมา และนำการผลดังกล่าวส่งให้คณะกรรมการจัดการหนี้พิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป