rn
rn
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี จัดฝึกอบรมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร รุ่นที่ 8 ณ หน่วยฝึกอบรม “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองทราย” ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 16-18 กรกฎาคม 2555 รวมผู้เข้ารับการฝึกอบรมและจัดทำสัญญากับ ธกส. แล้ว จำนวน 150 คน
rn
นายสุคนธ์ ศรีสำราญ หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า “การจัดฝึกอบรมเกษตรกรในครั้งนี้ เป็นการฝึกอบรมเกษตรกรในรุ่นที่ 8 มีเกษตรกรและผู้เข้ารับการอบรม รวมจำนวน 50 คน ซึ่งสำนักงานสาขาฯ ได้ส่งเกษตรกรเข้ารับการอบรมกับศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองทราย และที่ผ่านมาได้ส่งไปอบรมแล้วจำนวน 3-4 รุ่น โดยเกษตรกรทุกรุ่นที่เข้ารับการฝึกอบรมนั้นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผนแม่บทชุมชนและแผนองค์กรที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนร่วมกัน ซึ่งประกอบไปด้วยการทำการเกษตรตามแนวทางทฤษฎีใหม่ โดยยึดหลักการแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง การปรับทัศนคติและพฤติกรรมในการดำรงชีวิต การจัดทำบัญชีครัวเรือน วิเคราะห์รายรับ-รายจ่าย การเรียนรู้โครงสร้างของดิน ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ เรียนรู้งานและวิธีการปฏิบัติจริง เพื่อให้เกษตรกรกรนำไปปรับใช้ ตามแนวทางแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ เกิดความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 ได้ตรงเป้าหมาย ซึ่งเกษตรกรที่เข้ารับการอบรมในแต่ละรุ่นได้สะท้อนให้เห็นว่าเนื้อหาและหลักสูตรที่หน่วยฝึกอบรมและสำนักงานสาขาฯ จัดทำขึ้นนั้นมีประโยชน์และสามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากตามที่เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันรวมทั้งแบบสอบถามที่เราสำรวจในช่วงฝึกอบรม”
rn
นายสุคนธ์ ได้กล่าวสรุปว่า “การดำเนินงานตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ฯ ในส่วนของสำนักงานสาขา จ. กาญจนบุรี สามารถสรุปผลการดำเนินงานตามโครงการตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคม 2555 มีเกษตรกรที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และผ่านการฝึกอบรมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 150 คน ซึ่งทั้งหมดนี้สำนักงานสาขาฯ จ.กาญจนบุรี ได้ประสานงานกับ ธกส. เพื่อนำเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจัดทำสัญญากับ ธกส. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 150 คน ทำให้ผลการดำเนินงานตามโครงการก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2555 คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมโครงการ”