rn
ตามที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดระนอง ได้ติดต่อขอชำระหนี้แทนเกษตรกรรายนางอุไร เพชรสุทธิ์ กรณีหนี้ผิดนัดชำระ (บุคคลค้ำประกัน) กลุ่มเกษตรกรพัฒนา ม.5 รหัสองค์กร 8543000521 จากสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ดังกล่าว ขอเชิญสำนักงานกองทุนฟืนฟูฯ สาขาจังหวัดระนองเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการชำระหนี้แทนเกษตรกร ถึงสาเหตุที่ล่าช้า ทางสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ สาขาระนอง นำโดยนายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงาน นางสาวพร้อมพรรณ พวงแก้ว ลูกจ้างชั่วคราวประจำสาขาจังหวัด (รับผิดชอบการบัญชี/การเงิน และงานจัดการหนี้) และนายปิยะวุฒิ ผุสดี พนักงานขับรถ เดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
rn
นายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงาน ได้ชี้แจงว่าโดยเบื้องต้นว่าทางสำนักงานได้จัดทำเอกสารเพื่อขออนุมัติการจัดการหนี้กับทางสำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการจัดการหนี้ยังไม่มีการแต่งตั้ง จึงทำให้ยังไม่มีการอนุมัติการจัดการหนี้ของ นางอุไร เพชรสุทธิ์ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการกู้ไม่ชัดเจนต้องยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงาน และต้องผ่านคณะกรรมการจัดการหนี้ ทางสำนักงานต้องขอชะลอการขายทอดตลาดหลักทรัพย์ของผู้ค้ำประกันของนางอุไร เพชรสุทธิ์ กับทางสหกรณ์ฯ ออกไปก่อน จนกว่าคณะกรรมการจัดการหนี้จะจัดตั้งเสร็จ และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งสหกรณ์การเกษตรตะกั่วป่า จำกัด ได้ยืนยันว่าจะทำการชะลอการขายทอดตลาดหลักทรัพย์ของผู้ค้ำประกันให้นางอุไร เพชรสุทธิ์ ออกไปอีกเป็นเวลา 4 เดือน เพื่อรอคณะกรรมการจัดการหนี้ของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้ความช่วยเหลือต่อไป
rn
ต่อจากนั้นนายจอมภพ บุญธรรม หัวหน้าสำนักงาน ได้ตอบข้อซักของคณะกรรมการสหกรณ์ฯเกี่ยวกับการจัดการหนี้ตาม พ.ร.บ. กองทุนฟื้นฟูฯว่ามีขั้นตอนในการให้ความช่วยเหลืออย่างไร นายจอมภพ บุญธรรม ได้ชี้แจงว่า เกษตรกรต้องเป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกรของกองทุนฟื้นฟูฯ และได้ยื่นขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยหนี้ที่นำมาขึ้นทะเบียนต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการเกษตรเท่านั้น ส่วนการให้ความช่วยเหลือสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ จะให้การช่วยเหลือกับเกษตรกรที่เป็นหนี้ค้างชำระเกิน 3 ปีขึ้นไป จัดลำดับความเร่งด่วนดังนี้ 1.บังคับคดีขายทอดตลาด 2.ฟ้องร้องดำเนินคดี และ 3.หนี้ผิดนัดชำระ ซึ่งนายจอมภพ บุญธรรม ได้ยืนยันว่าเกษตรกรทุกรายที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ และได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้วนั้นจะได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเร่งด่วนของแต่ละราย