p55

rn

                              p57        p56

rn

                                                                         p58

rn

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ร่วมประชุมหารือร่วมกับผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนธนาคารรัฐ และผู้แทนเกษตรกร ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย ณ กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์  เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556

rn

ในการประชุมหารือดังกล่าวมีผู้ร่วมเจรจาประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์  ผู้อำนวยการสำนักบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานในการเจรจา  นายเกรียงไกร ธานีพัฒนรัศมี  ตัวแทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ นายจรูญ เสมอจันทร์ทิพย์ ผู้แทนเกษตรกร นายจรูญ คุณฑี ผู้แทนเกษตรกร นายชรินทร์ ดวงดารา  คณะทำงานกลั่นกรองแผนและโครงการ และ น.ส.แช่มช้อย ภู่สว่าง  หัวหน้าสำนักจัดการหนี้ 1 ตัวแทนจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ การประชุมหารือได้ข้อสรุป ดังนี้ 1. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐให้กับธนาคารรัฐ กรณีจำหน่ายหนี้สูญให้แก่เกษตรกรสมาชิกตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554  2. ให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการเพื่อจำหน่ายหนี้สูญให้กับเกษตรกรสมาชิก กฟก. กรณีเสียชีวิต พิการ หรือทุพพลภาพ 3. ให้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการตามข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการจัดสรรโควต้าส่งออกข้าวไปต่างประเทศจำนวน 1 ล้านตันให้กับ กฟก. 4. กฟก. จะแจ้งรายชื่อเกษตรกรสมาชิก กฟก.กรณีหนี้เร่งด่วน ประมาณ 8,691 ราย เพื่อ ธ.ก.ส. ตรวจสอบรายชื่อและสถานะหนี้ตามเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกัน และแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธ์ให้ กฟก. ชำระหนี้แทนไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินต้นคงค้างดอกเบี้ยตัดทิ้งและโอนหลักประกันมาเป็นของกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้งนี้ไม่รวมเกษตรกรที่เข้าเงื่อนไขตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 (โดย ธ.ก.ส. จะยังไม่ฟ้องดำเนินคดีใด ๆ ทั้งสิ้น) 5. กฟก. จะเสนอธกส. เพื่อขอชำระหนี้แทนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เป็นสมาชิก กฟก. ที่มีรายชื่อกลุ่มที่ 1 ในโครงการปรับโครางหนี้ ตามมติ ครม. 7 เมษายน 2553 ให้แล้วเสร็จแต่ละรายในคราวเดียว จำนวนร้อยละ 50 ของเงินต้นคงค้าง โดยเงินต้นส่วนที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยตัดทิ้ง และโอนหลักประกันมาเป็นของ กฟก. ตามเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติของ กฟก.  ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ต้องนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ก่อน ทั้งนี้ไม่รวมเกษตรกรที่เข้าเงื่อนไขตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 (โดย ธ.ก.ส. จะยังไม่ฟ้องดำเนินคดีใด ๆ ทั้งสิ้น) 6. ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการกลุ่มที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ให้ขยายผลไปยังสมาชิก กฟก. ในกลุ่มที่ 2 ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ตามมติ ครม. วันที่ 7 เมษายน 2553 โดยให้ กฟก. ตรวจสอบและเสนอดำเนินการในเงื่อนไขเดียวกันในภายหลังต่อไป 7. เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นรูปธรรมในการดำเนินการแก้ปัญหาหนี้เร่งด่วนของเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย โดยให้ กฟก. และ ธ.ก.ส. ดำเนินการจัดการหนี้ หรือ ซื้อทรัพย์คืนให้แก่เกษตรกรภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 เป็นกรณีตัวอย่าง