วันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายสำเริง ปานชาติ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการมีส่วนร่วมเพื่อการผลักดันทางนโยบายและแก้ไขปัญหาเกษตรกร ครั้งที่ 3/2566 และประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคณะอนุกรรมการเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง ในส่วนสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงาน กฟก. ได้มอบหมายให้ นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการทำหน้าที่เลขานุการคณะ และมีผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ฯ ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูฯ รองผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ฯ หัวหน้าส่วนจัดการหนี้ 1 และ 2 หัวหน้าส่วนนิติกรรมสัญญา เข้าร่วมประชุมด้วยนายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ ครม.มีมติให้ กฟก.ปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกรที่เป็นหนี้สถาบันการเงินของรัฐ 4 แห่ง จำนวน 50,621 ราย โดยรัฐบาลจะเป็นชดเชยส่วนต่างร้อยละ 50 ให้เกษตรกรที่ปรับโครงสร้างหนี้และใช้หนี้ครบตามสัญญา จากการหารือร่วมกันมีความคืบหน้าจนนำไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนและเริ่มมีการทำสัญญา ปคน. ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 66 เป็นต้นมา มีเกษตรกรทำสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว 178 ราย ปิดบัญชีชำระเงินต้นครบถ้วนตามสัญญาแล้ว 5 ราย ซึ่ง ธ.ก.ส.จะต้องเตรียมการนำเสนอเรื่องข้อมูลเพื่อขอเงินชดเชยจากรัฐบาล และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว กฟก.ได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารของรัฐ 4 แห่ง มีชี้แจงจากกระทรวงการคลังว่าโครงการดังกล่าวเข้าข่าวย ม.28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ พ.ศ. 2561 เพื่อให้เกิดความชัดเจนการปฏิบัติ กฟก.จะต้องเสนอโครงการและกรอบวงเงินชดเชยให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งขัดแย้งกับมติ ครม. ที่ได้อนุมัติและเห็นชอบโครงการรวมถึงแนวทางการปฏิบัติไปแล้ว หลังจากนั้น ธ.ก.ส. มีหนังสือแจ้งเรื่องการชะลอการดำเนินงานปรับโครงสร้างหนี้ฯ ให้แก่สมาชิก กฟก. ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องกรอบวงเงินงบประมาณที่จะนำมาชดเชยให้สมาชิกที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ฯ เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดความสับสน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อเกษตรกร จึงต้องเร่งหาข้อวสรุปโดยเร็วที่สุดโดยในวันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ กฟก.เดินหน้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ให้เกษตรกรตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กำหนดไว้ตามเดิม โดยกองทุนฯ เห็นว่า ความเห็นของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ถูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหักล้างในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 แล้ว สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้การปรับโครงสร้างหนี้นั้นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์และความเดือดร้อนของเกษตรกรเป็นที่ตั้ง และให้สำนักงานเร่งประสานงานกับรองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานกรรมการ กฟก. เพื่อกำหนดวันประชุมบอร์ดใหญ่ต่อไป

Recommended Posts