ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาเช่าสำหรับโครงการเช่าอาคารเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำการของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานใหญ่ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูฯ เผยยอดผู้สมัครผู้แทนเกษตรกร ปี 66 พุ่งสูงเป็นประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ 127 คน ชี้ชัดว่า กฟก.เป็นที่รู้จัก มีผลงานจับต้องได้

วันที่ 22 กันยายน 2566 นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้ง สถานที่สมัครรับเลือกตั้ง โดยกำหนดให้วันที่ 18 – 22 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น. เป็นวันรับสมัครเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ. 2566 และเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 15.00 น. สำหรับสถานที่รับสมัครกำหนดให้ภาคเหนือ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลาง ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (สำนักงานใหญ่) กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่ง กฟก.ได้ประชาสัมพันธ์การรับสมัครผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ สื่อโซเชียล หน่วยงานภาคีความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ช่วยกระจายข่าวให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบและสมัครเพื่อเป็นผู้แทนเกษตรกรของ กฟก. โดยได้มีการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด ให้แต่ละศูนย์รายงานผลเป็นรายวัน ทั้งยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์รับสมัครทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและพบปะกับผู้สมัครในแต่ละภูมิภาคด้วย

สรุปข้อมูลผู้มาสมัครผู้แทนเกษตรกร พ.ศ. 2566 ณ วันที่ 22 กันยายน 2566 ภาคเหนือ มีผู้สมัครจำนวน 28 คน ภาคกลาง มีผู้สมัคร จำนวน 19 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้สมัคร จำนวน 57 คน และภาคใต้ มีผู้สมัคร จำนวน 23 คน รวมทั้งสิ้น 127 คน โดยในภาพรวมวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครนั้น มีจำนวนผู้มาสมัครสูงสุดกว่าในทุกวัน ส่วนวันถัดไปก็ยังมีทยอยกันมาสมัครอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้บรรยากาศการรับสมัครเป็นไปด้วยความคึกคัก ทุกภูมิภาคมีจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นกว่าทุกครั้ง และมีผู้สมัครหน้าใหม่ทั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่ ผู้นำองค์กร นักเคลื่อนไหวภาคเกษตรให้ความสนใจร่วมสมัครมากขึ้นด้วย แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเกษตรกรได้ประจักษ์ถึงผลงานในเชิงรูปธรรมที่จับต้องได้ ทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้ การฟื้นฟูอาชีพ และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสำนักงานกับเกษตรกรที่แน่นแฟ้นมากขึ้น นับว่าเป็นมิติใหม่ของ กฟก. อย่างแท้จริง หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร โดยในทุกขั้นตอนสำนักงานได้กำชับผู้ปฏิบัติงานให้กระทำด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง และโปร่งใส ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้ทุกคนวางตัวเป็นกลางในการทำงาน เพื่อให้การเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในครั้งนี้มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน่วยงานด้วย

เลขาธิการกองทุนฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์รับสมัครภาคอีสาน เกษตรกรตื่นตัวยื่นสมัครทะลุ 55 คน ย้ำสาขาฯ อ้อนพี่น้องเกษตรกรมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้ทะลุเป้า

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) พร้อมคณะผู้บริหารได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์รับสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ภูมิภาคที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับฟังรายงานการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายประยงค์ อัตจักร  ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะประธานคณะกรรมการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นกรรมการ จำนวน 8 คน ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังรายงานการดำเนินงานของศูนย์รับสมัครรับเลือกตั้งฯ วันนี้เป็นวันที่ 5 วันสุดท้ายของการรับสมัคร โดยมีเกษตรกรสมาชิกที่สนใจมาสมัครเบื้องต้น 55 คน รวมจำนวนผู้สมัครทั้ง 4 ภาค (ไม่เป็นทางการ) จำนวน 118 ราย ซึ่งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

สำหรับประเด็นที่ได้หารือกันวันนี้  เลขาธิการกองทุนฯ ได้ย้ำถึงการวางตัวเป็นกลางของพนักงานที่ต้องยึดปฎิบัติตามระเบียบ นอกจากนี้ยังได้แจ้งแนวทางการประชุมของคณะอนุกรรมการติดตามและตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ทั้ง 4 ภาค  การจัดทำแผนประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ซึ่งได้จัดงบประมาณให้ทุกสาขาจังหวัด ตั้งแต่ 60,000 195,000 บาท ตามจำนวนสมาชิกองค์กร นอกจากนี้ยังมีเรื่องแนวทางปฏิบัติการขอสำเนารายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งตามกฎกระทรวง ข้อ 15 

เลขาธิการฯ สไกร ได้กล่าวตอนท้ายว่า จากข้อมูลผู้มาสมัครรับเลือกตั้งทั้ง 4 ภาค มีจำนวนมากกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาคอีสานที่มาสมัครมากถึง 55 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เป็นทางการ เมื่อเทียบกับคราวที่แล้วมาสมัคร 39 คน รวมทุกภาคมีมากกว่า 120 คน จะเห็นได้ว่าเกษตรกรให้ความสนใจและเห็นความสำคัญของกองทุนฟื้นฟูฯ จึงขอฝากให้สาขาจังหวัดลงพื้นที่พบปะองค์กรเกษตรกรและเข้าถึงเกษตรกรให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้ได้มากที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา