เดือน: ตุลาคม 2019

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดนครพนม ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกร จำนวน 2 ราย ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรศรีสงคราม จำกัด จำนวนเงิน 162,003.01 บาท หลักทรัพย์ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 3 งาน 22 ตารางวา และสหกรณ์การเกษตรท่าอุเทน จำกัด จำนวนเงิน 199,116.26 บาท หลักทรัพย์ จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 38 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา รวมชำระหนี้แทนเกษตรกรเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 361,119.27 บาท หลักทรัพย์รวม จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวมทั้งสิ้น 39 ไร่ 49 ตารางวา

rn

                                           

rn

                                         

รับสมัครเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เกษาโร พนักงานอาวุโส ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสำนักงาน ให้ดำเนินการโอนหลักประกันคืนเกษตรกร จำนวนหลักทรัพย์ 1 แปลง รวมเนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 46 ตารางวา

rn

โดย กองทุนฟื้นฟูฯ ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกร ให้กับสหกรณ์การเกษตรเขาวง จำกัด   เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 จำนวน 132,938.36.66 บาท

rn                                                   

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เกษาโร พนักงานอาวุโส  ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสำนักงาน ในการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกุฉินารายณ์ ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน

rn                                     

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เกษาโร พนักงานอาวุโส ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสำนักงานสาขา  ให้ตรวจสอบข้อมูลหนี้ และเจรจาขอชำระหนี้แทนเกษตรกรสมาชิกลูกหนี้สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ ห้วยผึ้ง จำกัด กรณีหนี้ผิดนัดชำระ และมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งสหกรณ์ได้ยินยอมให้กองทุนฯชำระหนี้แทนเกษตรกรสมาชิกลูกหนี้

rn

rn                                                                                                                        

วันที่ 2 เมษายน 2562 นายสไกร  พิมพ์บึง   รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร  ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบVideo Conference ระหว่างสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานใหญ่ ร่วมกับสำนักงานสาขาจังหวัดทั่วประเทศ  โดยมีนายณรงค์  อ่อนสอาด  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เป็นประธาน  เพื่อติดตามภารกิจงานตามนโนบายของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ  ณ  ห้องประชุมชั้น 3  สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

rn

  

rn

  

rn

  

rn

  

rn

rn

วันที่ 1 เมษายน 2562 นางพัชรี รู้น้อม รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดพะเยา โอนโฉนดคืนให้กับเกษตรกรที่ชำระเงินคืน กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและปิดบัญชีขอไถ่ถอนหลักทรัพย์คืน จำนวน 1 ราย โฉนดจำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวม 2 งาน 1 ตารางวา โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดพะเยา ได้ชำระหนี้ให้กับเกษตรกรเป็น จำนวนเงิน 216,637 บาท ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดพะเยา

rn

วันที่ 1 เมษายน 2562 นางสาววราภรณ์ พิมสาร รักษาการหัวหน้าสำนักงา นกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดลำพูน โอนหลักประกันคืนให้กับเกษตรกรที่ชำระเงินคืนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และปิดบัญชีขอไถ่ถอนหลักประกันจำนวน 1 ราย หลักประกันจำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวม 3 ไร่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดลำพูน สาขาแม่ทา

rn

rn

rn

rn

 

rn

วันที่ 2 เมษายน 2562 นางสาวปิยะพร จันทรสา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดอุดรธานี และนายศิริคม สร้างคำ คณะอนุกรรมการ ร่วมประชุมสมาชิกองค์กรเกษตรกร เพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาศักยภาพองค์กรเกษตรกร ที่เสนอโครงการขอรับงบอุดหนุน

rn

กลุ่มเกษตรนาปรังบ้านดงแสนสุข รหัสองค์กร 4161000138 ที่อยู่ 176 หมู่ที่ 3 บ้านดงแสนสุข ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี โดยนายเคน ดิศเจริญ ประธานกลุ่มเข้าร่วมโครงการเลี้ยงหมู ผลิตอาหารเองเพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 15 คน องค์กรสมทบคอกหมูและอาหารหมูโต

rn

rn

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดปทุมธานี ประชุมกลุ่มเกษตรกรสมาชิก ติดตามโครงการฟื้นฟูฯกลุ่มลำลูกกา ที่ได้รับงบอุดหนุนปี 2561 พร้อมทั้งถอดบทเรียนการทำนาเคมี ในรอบการผลิตที่ผ่านมา ต้นทุนการทำนาไร่ละ 3,000 – 5,000 บาท ขายข้าวได้ราคา 6,000 บาท ผลผลิตต่อไร่ 60 ถัง และถอดบทเรียนการทำนาอินทรีย์แปลงทดลองที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลง ต้นทุนการทำนาต่อไร่ 2,500 บาท เนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน ได้ผลผลิตไร่ละ 75 ถัง แก้ปัญหาหญ้าด้วยการล่อหญ้า ไม่มีปัญหาหญ้าและแมลง ใส่เพียงขี้วัวไร่ละ 2 กระสอบ จึงนำมาสู่การวางแผนการปลูกข้าวอินทรีย์ในรอบการผลิตประจำปี2562เพิ่มแปลงข้าวอินทรีย์ มาเป็น 2 แปลง เนื้อที่กว่า 7 ไร่ ข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี1 โดยในปีนี้จะทำนาแบบโบราณ ซึ่งเกษตรกรมีความเข้าใจอยู่แล้วแต่ไม่กล้าปรับเปลี่ยนกลับไปทำแบบ โบราณ สาเหตุจากความเคยชินกับการทำเกษตรแบบเคมี ปัญหาภาระหนี้สิน ภาระครอบครัว อายุที่มากขึ้นแรงงานลดลง ปัญหาสุขภาพ ไม่มีความหวัง ไม่มีความรู้ในการจัดการ ดังนัันจึงมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะทดลองขยายพื้นที่ทำนาอินทรีย์เพิ่มขึ้นเพื่อการเรียนรู้เพิ่มขึ้น จากการผลิตสู่การตลาดอย่างยั่งยืน