วันที่ 28-29 เมษายน 2565


ณ โรงแรม ไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร

นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ อยู่รอด ผู้อำนวยการรักษาการรองเลขาธิการ

,นายมนัส วงษ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการหนี้ของเกษตรกร ,นายวิญญู สะตะ ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ,

นายประเทือง นรินทรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักบริหาร ,นางวรรณี มหานีรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ,

นางสาวธนวัน บัวหลวงงาม ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 2 ,นางโสมสุดา โพธิ์อินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
และหัวหน้าสำนักงานสาขาจังหวัดภาคกลาง 26 จังหวัด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วน และพนักงานสาขา เข้ารับฟังการชี้แนวทางการใช้งบประมาณงบกลางปี 2565

“นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ย้ำ 26 สำนักงานสาขาจังหวัดภาคกลาง ต้องใช้งบกลางให้ถูกต้อง แล้วเสร็จก่อน 30 ก.ย. เป้าหมายหลัก คือเกษตรกรได้ประโยชน์สูงสุด”

โดยเลขาธิการสำนักงานกองทุนฯ ได้ให้นโยบายต่อผู้เข้าร่วมประชุมว่า งบกลางจำนวน 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเพื่อการจัดการหนี้ 1,500 ล้านบาท เพื่อการฟื้นฟูอาชีพ 270 ล้านบาท และเพื่อการบริหารสำนักงาน 230 ล้านบาท โดยเฉพาะงบด้านการจัดการหนี้ และการฟื้นฟูอาชีพ ที่ต้องเร่งดำเนินการใช้จ่าย เพื่อประโยชน์ต่อเกษตรกรสมาชิก

ดังนั้น กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใต้ความถูกต้องตามเป้าหมายและเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อเสนอที่ขอใช้งบกลาง นายสไกร ยังกล่าวอีกว่า หลายฝ่ายได้เป็นห่วงว่า กองทุนฯจะใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง และไม่แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 65 หรือก่อน 30 ก.ย. 65 นั้น การใช้งบประมาณต้องถูกต้องตามกฎหมาย และตามข้อเสนอที่ขอใช้งบกลาง และต้องแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณ 65 ซึ่งตนและผู้บริหารสำนักงาน ได้ลงพื้นที่ประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับสาขาจังหวัดทุกจังหวัดทั้ง 4 ภาค ซึ่งเวทีภาคกลางครั้งนี้เป็นสุดท้าย เพื่อให้การใช้จ่ายงบกลางให้ถูกต้องและแล้วเสร็จตามกำหนด

สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ภูมิภาคที่ 2 (ภาคกลาง)

Recommended Posts